เปิดแอร์อย่างไร ให้ประหยัดที่สุด

โลกร้อน ไม่เปิดแอร์คงไม่ได้

Home Floor Plan

อยากที่ทราบดีว่า ความร้อนของโลก เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ประเทศไทยหน้าร้อน ปี พ.ศ. 2567 ความร้อนพุ่งขึ้นไปมากกว่า 40 องศา ร้อนขนาดไหน ลองเปรียบเทียบกับอุณหภูมิห้องปกติ จะอยู่ที่ 20-25 องศา เท่านั้น ดังนั้น คงไม่สามารถห้ามการเปิดแอร์ได้อย่างแน่นอน

ประหยัดไฟ เท่ากับประหยัดเงิน

การเปิดแอร์ทำให้ค่าไฟสูงขึ้นมาก แต่การเปิดแอร์อย่างไรให้ถูกวิธี จะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้จริงหรือไม่ ลองดูเทคนิคการใช้แอร์แบบประหยัด แถมยังได้อากาศเย็นตามที่ต้องการ

วิธีเปิดแอร์ให้ประหยัดไฟ

ห้องนอนที่มีแอร์และพัดลม

  • ตั้งอุณหภูมิที่ 26-27 องศาเซลเซียส:
    หลายคนชอบเปิดแอร์ที่อุณหภูมิต่ำๆ แต่ยิ่งตั้งอุณหภูมิต่ำ แอร์ยิ่งต้องทำงานหนัก กินไฟมากขึ้น ลองปรับอุณหภูมิขึ้นสักหน่อย รู้สึกเย็นสบายไม่แพ้กัน ประหยัดไฟได้มากขึ้น

  • เปิดพัดลมช่วย:
    การเปิดพัดลมร่วมกับแอร์ ช่วยให้กระจายความเย็นทั่วห้อง รู้สึกเย็นสบายขึ้นโดยไม่ต้องเปิดแอร์อุณหภูมิต่ำ ประหยัดไฟได้อีกด้วย แอร์ใช้พลังงานไฟฟ้ามากกว่าพัดลมหลายเท่าตัว

  • ตั้งเวลาเปิดปิด:
    ตั้งเวลาเปิดแอร์เฉพาะช่วงที่ต้องการใช้งาน ปิดแอร์เมื่อออกจากห้อง หรือใช้ระบบตั้งเวลาเปิดปิดอัตโนมัติ ช่วยป้องกันการเปิดแอร์ทิ้งไว้โดยไม่ได้ใช้งาน นอกจากนี้ การปิดแอร์ก่อนออกจากห้องหรือออกจากที่ทำงานสัก 15-30 นาที จะช่วยประหยัดไฟได้อีกมาก เพราะขณะนั้น ห้องยังมีอากาศเย็นอยู่

ทิปเพิ่มเติม ก่อนการเปิดแอร์ ถ้าอากาศภายในห้องร้อนมาก แนะนำให้เปิดหน้าต่าง และใช้พัดลมช่วยเป่าระบายความร้อนก่อนเปิดแอร์ จะช่วยทำให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนักเพื่อลดอุณหภูมิในห้องในช่วงแรก

การดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ:

  • ล้างแอร์ตามคอร์ส:
    แอร์ที่สกปรก ทำงานหนัก กินไฟมากขึ้น ควรล้างแอร์ตามคอร์สอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ช่วยให้แอร์ทำงานสะดวก ประหยัดไฟ

  • ตรวจเช็คสภาพแอร์:
    ตรวจสอบสภาพแอร์สม่ำเสมอ เช็คว่ามีน้ำรั่วหรือไม่ พัดลมแอร์ทำงานปกติหรือไม่ แก้ไขปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ได้ทันท่วงที ป้องกันการเสียหายหนัก

  • เลือกแอร์ที่มีประสิทธิภาพ:
    เลือกซื้อแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟสูง แอร์รุ่นใหม่ๆ มีเทคโนโลยีช่วยประหยัดไฟ ช่วยลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว


ทิปเพิ่มเติมประหยัดไฟในการใช้แอร์

  • ปิดช่องว่าง:
    ปิดช่องว่างประตู หน้าต่าง ม่าน กันแสงแดดและความร้อนเข้าห้อง ช่วยให้แอร์ทำงานน้อยลง

  • ใช้ผ้าม่านกันแสง:
    ติดตั้งผ้าม่านกันแสง ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดที่ผ่านเข้ามาในห้อง

  • ปลูกต้นไม้:
    ปลูกต้นไม้รอบบ้าน ช่วยดูดซับความร้อน ลดอุณหภูมิในบริเวณบ้าน

  • เลือกสีบ้าน:
    ทาสีบ้านด้วยโทนสีอ่อน สะท้อนความร้อน ช่วยให้บ้านเย็นสบายขึ้น

เพียงเท่านี้ เราสามารถช่วยประหยัดไฟ ประหยัดเงินในกระเป๋าของตัวเราเองได้  และผลพลอยได้ นั่นคือเป็นการช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้มาก มาช่วยกันนะ ฝากแนะนำต่อๆ กันด้วย เพื่อโลกที่น่าอยู่ของเรา

Post a Comment

0 Comments